What is the structure of a full service advertising agency?

Utah State Legislature Members: 29 (Senate), 75 (House) Length of term: 4 years (Senate), 2 years (House) Authority: Art VI, Utah Constitution Salary: $273/day + per diem Click to see full answer. In this manner, how much do Utah state employees make? Utah State Employees Year Employer Annual Wages 2017 Utah Department of Human Services…

คำถาม โจเซฟ สมิธคือใคร? คำตอบ โจเซฟ สมิธเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้ริเริ่มคริสตจักรมอรมอนและเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่าศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ผู้คนคิดว่าโจเซฟ สมิธมีพลังเวทย์มนต์ตั้งแต่ยังอายุน้อย เข้าเป็นที่รู้จักตั้งแต่อายุน้อยว่าเป็นผู้ทำนายอนาคตและตามที่มีการรายงานนั้นเขาใช้หินทำนายเพื่อที่จะบอกเขาว่าเหล็กและเงินที่มีค่านั้นอยู่ที่ไหน ทั้งเขาและพ่อของเขา เป็นที่รู้จักกว่าเป็น “ผู้หาสมบัติ” และใช้การทำนายดวงชะตาและเวทย์มนต์เพื่อทำให้ คณะผู้เดินทางหาสมบัตินั้นประสบความสำเร็จ สิ่งนี้อย่างแน่นอนทำให้เขาเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง จนถึงทุกวันนี้มีบางคนพิจารณาว่าเขาเป็นนักบุญและบางคนกล่าวว่าเขาเป็นนักต้มตุ๋น อย่างแท้จริง โจเซฟ สมิธเติบโตขึ้นในช่วงเวลาของการฟื้นฟูทางเนจิตวิญญาณในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่รู้จักกันคือลัทธิฟื้นคืนกลับ เป็นช่วงเวลานี้ ปีค.ศ. 1820 ที่โจเซฟ สมิธอ้างว่าเขาได้รับนิมิต ที่วิเศษมากซึ่งพระเจ้าพระบิดาและพระเจ้าพระบุตรได้ปรากฏแก่เขาและพูดคุยกับเขาในขณะที่เขากำลังอธิษฐานอยู่ในป่า เขาได้รายงานว่า “บุคคลสำคัญ” ทั้งสองไม่ยอมรับคริสตจักรของคริสเตียนและประกาศว่าต้องมีการฟื้นฟูศาสนาคริสต์และสมิธเป็นผู้ที่ได้รับเลือกให้เริ่มปฏิบัติการ ของระบบใหม่ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้คริสตจักรมอรมอนดำรงตำแหน่งเพื่อนำเสนอว่า เป็นศาสนาคริสต์ที่แท้จริงแต่เพียงคริสตจักรเดียวเท่านั้น ผู้นำมอรมอนสอนอย่างต่อเนื่องว่าหลังจากการตายของอัครทูตทั้งหลายได้สิ้นชีวิตไป ทำให้ศาสนาคริสต์ที่แท้จริงได้ตกลงไปสู่การปลีกตัวออกมาทำให้ต้องมีการ “ฟื้นฟู” แม้กระทั่ง การเยี่ยมเยียนที่อนุมานว่าเป็นจริงทำให้โจเซฟ สมิธและเพื่อๆ ของเขายังคงค้นหาสมบัติโดยใช้หลักการของทางไสยาศาสตร์ หลักการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในตอนนั้นและสมิธถูกตัดสิน ว่ามีความผิดใน “การดูลูกแก้ว” ในปีค.ศ. 1826 แต่ก่อนที่จะถูกตัดสินว่าผิดในเทศมณฑลเชนังโก รัฐนิวยอร์ก “ผู้พยากรณ์คนใหม่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า” ยังคงกระตุ้นความขัดแย้งว่าด้วยเรื่อง การเผชิญหน้าอย่างมหัศจรรย์กับสวรรค์ ในปีค.ศ. 1823 สมิธได้อ้างว่าได้รับการติดต่อจากทูตสวรรค์ที่มีชื่อว่าโมโรไนผู้ซึ่งเปิดเผยว่ามีจากทองคำในสถานที่หนึ่งใกล้กับพาลไมรา นิวยอร์ก บนจานทองคำมีประวัติของชายโบราณซึ่งมีชื่อว่ามอรมอนและชื่อเสียงจากนิทานเผ่าฮีบรูโบราณ ผู้ซึ่งถูกกล่าวว่าเป็น…

Poslanica Filemonu Autor: Autor poslanice Filemonu je apostol Pavao (Filemon 1:1). Vrijeme pisanja: Poslanica Filemonu bila je napisana oko 60. godine. Svrha pisanja: Poslanica Filemonu najkraći je od svih Pavlovih spisa i bavi se robovlasništvom. Iz poslanice možemo zaključiti da ju je Pavao napisao iz zatvora. Filemon je bio robovlasnik koji je ugošćavao crkvu u…

问题 后现代主义的危害是什么？ 回答 简单地说,后现代主义是一种哲学,这种哲学认为没有客观或绝对真理,特别是宗教和精神方面。当涉及到关于上帝和宗教时, 后现代主义的观点是“对你来说或许是真的,但不适合我。” 在讨论喜欢的食物或偏好的艺术时，这样的回答是完全适当的, 但当它应用于现实,这样的心态就是危险的,因为它混淆了观点与真理。 “后现代主义”这个词的字面意思是“现代主义之后”，是对当前时代的哲学描述。后现代主义是对现代主义的一种反应(失望的反应)，现代主义认为单独凭借人类的理性，就可以让世界变得更美好，但并没有实现。因为现代主义的一个信仰就是绝对确实存在, 后现代主义企图“改正”事情,首先消除绝对真理,使一切(包括经验科学和宗教)关于个人信仰和欲望的东西都说成是相对的。 后现代主义的危害可以被看作是一个恶性循环,始于对绝对真理的排斥,从而导致宗教和信仰多元性的损失,宗教多元主义哲学说没有哪个信仰或宗教是客观真实的,所以没有人可以声称他或她的宗教信仰是真实的,另一个是假的。 后现代主义的危险——# 1——相对真理 后现代主义的相对真理立场是一代又一代许多哲学思想的结果。从奥古斯汀到改革, 西方文明的知识方面和真理的概念是由神学家控制的。但是,从文艺复兴时期开始14——17世纪,思想家开始把人类提到了现实的中心。如果把历史看做一个族谱, 文艺复兴就是现代主义的祖母，启蒙运动是它的母亲。笛卡尔的“我思故我在”是这个时代的开始。上帝不再真理的中心——人才是。 启蒙运动,在某种程度上,是把理性的科学模型强加在了真理的所有方面。它声称只有科学数据是客观的。关于宗教的真理被丢弃。普鲁士人康德和他1781年出版的著作《纯粹理性批判》对相对真理的提出做了贡献。康德认为真正的关于上帝的知识是不可能的,所以他把“事实”和“信仰”区分开了。康德认为，“事实与宗教无关。”结果是,精神问题归属于观念领域,人们只认为实证科学才有真理。而现代主义绝对相信科学、上帝的启示(圣经)被逐出真理和确定性的领域。 现代主义之后是后现代主义和尼采的思想。作为后现代主义哲学的守护神,尼采提倡“视角主义”,说所有的知识(包括科学)都是某一种特定的视角和解释。许多哲学家都以尼采的为基础(例如,福柯,罗蒂和利奥塔尔),跟他一样排斥上帝和宗教。他们也拒绝任何绝对真理的暗示, 或者正如利奥塔尔所说, 拒绝元叙述(超越民族和文化的真理)。 这个针对客观真理的哲学战争导致了后现代主义，后者完全反对任何绝对的论述。这样的心态自然拒绝任何声明是绝对正确的真理,如《圣经》。 后现代主义的危险——# 2——失去洞察力 伟大的神学家托马斯·阿奎那说:“做出区分是哲学家的任务。”阿奎那的意思是,真理依赖于辨别区分的能力——在知识的领域区分这个和那个。然而, 如果客观和绝对的真理不存在, 那么一切都将依赖个人的解释。对后现代思想家来说,一本书的作者并不能正确解读他的作品,实际上是读者决定这本书意味着什么——这一过程被称为解构。考虑到有多个读者, 自然就有多个有效的解释。 这样一个混乱的情况让人无法进行有意义的和持久的区别,因为没有标准可以使用。这尤其适用于信仰和宗教。试图在宗教领域做出适当和有意义的区别，并不比争论香草巧克力哪个口味好吃更有意义。后现代主义认为，我们不可能客观裁决相互矛盾的真理孰是孰非。 后现代主义——# 3——多元化的危险 如果绝对真理不存在,如果没有办法区分不同的信仰和宗教,然后自然会得出结论,所有信仰同样有效。在后现代主义中，这个术语是“哲学多元化”。在多元主义看来, 没有宗教有权说自己是对的，别的是错的。对于那些信奉哲学宗教多元化的人,不再有任何异端。D·A·卡森强调了保守福音主义的担忧:“在我心情忧郁的时候，我有时会想，自从二世纪诺斯替教的兴起以来，多元主义哲学的丑恶嘴脸是对福音最危险的威胁。” 这些进步的后现代主义的危险——相对真理,洞察力的损失和哲学多元化——代表着对基督教教义的威胁,因为他们共同把神的话看做是没有权威的，其没有能力展示自己的真实性。督教对这些挑战的反应是什么? 对后现代主义危险的回应 基督教声称自己是绝对正确的,正确/错误的区别(以及真理和谬误)的确存在。这样的立场引发后现代主义者们称其“傲慢”和“不宽容”。然而, 真理不是一种态度或偏好, 仔细检查时, 后现代主义的基础迅速崩溃, 揭示基督教的说法是可信的和令人信服的。 首先,基督教声称绝对真理的存在。事实上, 耶稣说, 他被派去做一件事: “为真理作证”(约翰·18:37)。后现代主义说,没有一定的真相,但这无法自圆其说——它肯定至少有一个绝对的真理:没有一定的真相。这意味着后现代主义相信绝对真理。其哲学家写书，说那些他们希望读者接受的真理。简单来讲, 一位教授说: “当有人说没有所谓的真理, 他们要求你不要相信他们。所以不要信。” 第二,基督教声称基督教信仰和所有其他信仰是有区别的。我们应该明白, 那些声称没有区别的人，实际上正在制造区别。他们正试图展示他们愿意相信的和基督教愿意相信的。后现代主义作者希望读者从他们所写的东西得出正确的结论。再一次,他们的立场和哲学证明他们是自掘坟墓,因为他们急切地区分他们所认为的正确和错误。 最后,基督教在以下几个方面是正确的：关于人在神面前的迷失,基督代表人类的牺牲，那些选择不接受上帝的人和上帝之间的分离。当保罗写信给斯多葛派和伊壁鸠鲁派哲学家时, 他说, “当人类处在蒙昧无知的时候，上帝不加深究，但现在他命令全人类要离弃邪恶的道路。”(使徒行传17:30)。保罗的声明并非“对我来说这是正确的,但对你来说不一定”;相反,它神对每个人的专用和通用命令。任何说保罗错的后现代主义都是否认自己的多元哲学, 说没有信仰或宗教是不正确的。再次,后现代主义违反自己的观点,即每个宗教都是同样真实的。 数学老师坚持2 + 2 =…